นางสุปรารถนา กมลเวชช ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครชิคาโก พร้อมด้วยนางนาฎนภางค์ ดำรงสุนทรชัย รองกงสุลใหญ่ ณ นครชิคาโก และคณะเจ้าหน้าที่ เยี่ยมชมงานแสดงสินค้า “The Specialty Coffee Expo Chicago 2024” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 – 14 เมษายน 2567 ณ ศูนย์แสดงสินค้า McCormick Place อาคาร Lakeside Center นครชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา

 

งานดังกล่าวเป็นงานแสดงสินค้าที่เกี่ยวกับกาแฟพิเศษ (Specialty Coffee) ประเภทธุรกิจต่อธุรกิจ (B2B) ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอเมริกาเหนือ ครอบคลุมสินค้าทั้งเมล็ดกาแฟ บรรจุภัณฑ์ ภาชนะ เครื่องชงกาแฟ และของใช้ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจการร้านกาแฟทั้งหมด จัดโดยสมาคม Specialty Coffee Association (SCA) หมุนเวียนจัดตามเมืองใหญ่ในสหรัฐฯ ในปีนี้มีผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมออกคูหาประมาณ 590 ราย จากทั้งในสหรัฐฯ และจากต่างประเทศ อาทิ บราซิล คอลอมเบีย เอธิโอเปีย ปานามา คอสตาริกา อินโดนิเซีย และไทย เป็นต้น มีผู้เข้าชมงานประมาณ 19,000 ราย จาก 75 ประเทศทั่วโลก

 

ภายในงานมีผู้ประกอบการไทยร่วมออกคูหาแสดงสินค้าทั้งสิ้น 4 ราย ได้แก่

 

1. โครงการ Q Project Thailand ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างบริษัท Bolliger & Company (Thailand) Ltd. บริษัทให้คำปรึกษาด้านนโยบายสาธารณะของไทย และสถาบันคุณภาพกาแฟ ( Coffee Quality Institute หรือ CQI) องค์กรผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟที่ไม่แสวงหากำไรของสหรัฐฯ ในการฝึกอบรมให้ความรู้เกษตรกรที่เพาะปลูกกาแฟในประเทศไทยจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลกเพื่อพัฒนาคุณภาพการเพาะปลูก การผลิต รวมถึงการคัดเลือกให้คะแนนกาแฟพิเศษไทยแบบครบวงจร ซึ่งจะนำไปสู่การขยายตลาดส่งออกสินค้ากาแฟพิเศษไทยในตลาดสากลอย่างยั่งยืนในอนาคต โดยปีนี้โครงการได้นำตัวอย่างสินค้ากาแฟพิเศษไทยทั้งประเภทอาราบิกาและโรบัสตาที่ได้รับคะแนนประเมินตามมาตรฐานกาแฟสากลสูงกว่า 80 จากผู้ประกอบการไทยที่เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 32 ราย ไปจัดแสดงและประชาสัมพันธ์ภายในงานโดยได้รับผลตอบรับดีจากผู้เข้าชมงาน อีกทั้ง ยังถือเป็นการแสดงศักยภาพและเปิดตลาดการแฟพิเศษไทยไปสู่ตลาดโลกได้เป็นอย่างดี

 

2. บริษัท Thabdheva Thabthai ผู้ประกอบการเพาะปลูกและตัวแทนจำหน่ายเมล็ดกาแฟทั้งเมล็ดดิบและเมล็ดคั่วแล้ว อีกทั้ง ยังเป็นตัวแทนเกษตกรผู้เพาะปลูกกาแฟไทยในเขตภาคเหนือในการทำตลาดส่งออก ปัจจุบันมีกลุ่มเกษตรกรในเครือทั้งสิ้นประมาณ 3,000 ราย มีกำลังการส่งออกทั้งสิ้นประมาณ 50,000 ตันต่อปี ภายในคูหามีจัดแสดงตัวอย่างคุณภาพสินค้าเมล็ดกาแฟไทย รวมถึงโปสเตอร์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการคัดเลือกและให้คะแนนคุณภาพเมล็ดกาแฟตามหลักมาตรฐานกาแฟสากล

 

3. บริษัท ODZ Dripper ผู้ประกอบการผลิตและจำหน่ายภาชนะสำหรับการชงกาแฟแบบดริป (Dripper) ทำจากวัสดุเซรามิกพิเศษบางเบาทนทาน มีสีสันและลวดลายที่หลากหลายวาดด้วยมือทุกชิ้นด้วยสีพิเศษที่ไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค โดยเฉพาะลวดลายเบญจรงค์ไทยที่สวยงามประณีตซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ที่เข้าชมงาน


4. บริษัท Meka Innofood ผู้ผลิตและจำหน่ายกาแฟและอุปกรณ์ออกแบบนวัตกรรมสำหรับธุรกิจร้านกาแฟแบรนด์ Squeaky ที่มีความแตกต่างและน่าสนใจ เช่น อุปกรณ์สำหรับกระจายผงกาแฟ (Squeaky – King Eddy the Spreader) อุกรณ์สำหรับทำความสะอาดเครื่องบดกาแฟ (Squeaky – Rocket) อุปกรณ์สำหรับใส่ฟิลเตอร์เครื่องแอสเปรสโซ (Squeaky – UFO the Multi Purpose Portafilter) และอุปกรณ์สำหรับบรรจุกาแฟเพื่อทดสอบกลิ่น (Squeaky – Hom (Flower) โดยในปีนี้สินค้าอุปกรณ์ลูกบอลโลหะทำความเย็นสำหรับแอสเปรโซ (Squeaky – Alsa – The Coffee Cooler) ของบริษัทยังได้รับได้รับรางวัล the Best Product Award: People's Choice จากผู้จัดงานด้วย

 

โดยรวมอุตสาหกรรมกาแฟพิเศษถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพค่อนข้างสูงและมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากมูลค่าประมาณ 3.96 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567 เป็นมูลค่าทั้งสิ้น 5.55 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2574 หรือคิดเป็นอัตราการขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 55.25 ต่อปี ทั้งนี้ แม้ว่าประเทศไทยจะมีศักยภาพในการผลิตสินค้ากาแฟพิเศษที่ได้คุณภาพเป็นที่ต้องการของตลาด แต่ปัจจัยด้านกำลังการผลิตก็ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญต่ออุตสาหกรรม ดังนั้น การส่งเสริมให้เกษตรกรไทยเพิ่มพื้นที่การเพาะปลูกกาแฟคุณภาพจึงน่าจะช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดกาแฟพิเศษไทยในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มกาแฟพิเศษที่สนับสนุนความยั่งยืนทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (Sustainability) ซึ่งเป็นที่สนใจของกลุ่มผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมกาแฟในปัจจุบัน

 

กำหนดการจัดงานครั้งต่อไประหว่างวันที่ 25 - 27 เมษายน 2568 ณ เมือง Houston รัฐเทกซัส